วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

มนัส บุญจำนงค์ นักมวยทีมชาติไทย

มนัส  บุญจำนงค์
มนัส บุญจำนงค์ เป็นนักชกมวยสากลสมัครเล่นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก จากการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่ประเทศกรีซ นับเป็นชาวไทยคนที่ 5 ที่ได้รับเหรียญทองโอลิมปิก และเป็นนักมวยสากลสมัครเล่นคนที่ 3 ต่อจากสมรักษ์ คำสิงห์ และวิจารณ์ พลฤทธิ์

มนัสได้เหรียญทองจากกีฬาโอลิมปิก 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน เอเชียนเกมส์ 1 เหรียญทอง และซีเกมส์ 2 เหรียญทอง และหนึ่งเหรียญทองแดงจากการแข่งขัน มวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลกที่จัดขึ้นที่กรุงเทพในปี 2546

ประวัติ
มนัส บุญจำนงค์ มีชื่อเล่นว่า "เติ้ล" เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2523 ที่จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรของนายมโนและนางมาลี บุญจำนงค์ มีน้องชายอีก 2 คนคือ มานนท์ (นน บุญจำนงค์) และ พันธนินทร์ ทั้งสามพี่น้องหัดชกมวยมาตั้งแต่สมัยเด็ก

ภูมิลำเนา  191 ซอย 2 ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี

ครอบครัว
มีภรรยาคือ นางพจนีย์ บุญจำนงค์ (เกตุสวัสดิ์) และมีบุตรด้วยกัน 3 คน ภายหลังจากได้เหรียญทองโอลิมปิกปี 2004 มนัสได้มีปัญหากับภรรยา และแยกทางกันเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 หลังจากแยกทางกับนางพจนีย์แล้ว ในวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2551 นางพจนีย์ก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายเพิ่มอีก 1 คน ซึ่งมนัส ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า บุตรที่เกิดมาภายหลังนี้เป็นบุตรที่เกิดจากตนเช่นกัน จากการที่มักมีปัญหาเรื่องผู้หญิงและครอบครัวแบบนี้ซึ่งส่งผลกระทบถึงการชกมวย จึงทำให้สื่อมวลชนให้ฉายามนัสว่า "เพลย์บอยกลับใจ" ในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มีการอนุมัติให้มนัสเข้าบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจเนื่องจากสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ โดยจะให้ได้รับยศตามวุฒิการศึกษา

โอลิมปิก 2004
มนัสลงแข่งขันในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวท (64 กิโลกรัม) ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่เมืองเอเธนส์ ประเทศกรีซ เส้นทางสู่เหรียญทองของมนัสคือ
  • รอบ 8 คนสุดท้าย: 22 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ชนะวิลลี เบรน จากฝรั่งเศส 20-8 หมัด
  • รอบรองชนะเลิศ: 27 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ชนะไอโอนัท จอร์จี นักชกโรมาเนีย
  • รอบชิงชนะเลิศ: 28 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ชนะยูได เซเดอโน่ จอห์นสัน จากคิวบา 17-11 หมัดฃ
มนัสเป็นคนไทยคนที่สามที่ได้เหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ โดยก่อนหน้า อุดมพร พลศักดิ์ และ ปวีณา ทองสุก นักยกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทยได้คว้าเหรียญทองไปแล้ว

เอเชี่ยนเกมส์ 2006
หลังจากมนัสได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ก็ประสบปัญหาครอบครัวและติดการพนัน ทำให้ไม่เข้าซ้อมชกมวยบ่อยครั้ง ก่อนจะกลับตัวได้และลงแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2006 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 โดยเอาชนะชิน เมียง ฮุน จากเกาหลีใต้ 22-11 หมัด ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสมาคมมวยสากลสมัครเล่นได้ส่งมนัสเดินทางไปเก็บตัวที่ประเทศคิวบาเพียงคนเดียวนานถึง 3 เดือน กับโค้ช ฮวน ฟอนตาเนียล ซึ่งก็ทำให้มนัสได้เป็นนักมวยสากลสมัครเล่นไทยเพียงคนเดียวที่ได้เหรียญทองในการแข่งขันครั้งนี้

โอลิมปิก 2008
มนัสกลับมาแข่งขันโอลิมปิกเป็นครั้งที่สอง ในรุ่นเดิม โดยเส้นทางการชกเป็นดังนี้
  • รอบ 16 คนสุดท้าย (14 สิงหาคม พ.ศ. 2551): ชนะ มาซาซึกุ คาวาชิ ( ญี่ปุ่น ) 8-1
  • รอบ 8 คนสุดท้าย (17 สิงหาคม พ.ศ. 2551): ชนะ เซริค ซาพิเยฟ ( คาซัคสถาน ) 7-5
  • รอบรองชนะเลิศ (22 สิงหาคม พ.ศ. 2551): ชนะ โรเนียล อิกเลเซียส โซโตลองโก ( คิวบา ) 10-5
  • อบชิงชนะเลิศ (23 สิงหาคม พ.ศ. 2551): แพ้ เฟลิกซ์ ดิแอซ ( สาธารณรัฐโดมินิกัน) 4-12
มนัสเป็นนักกีฬาไทยคนแรก ที่สามารถคว้าเหรียญจากการแข่งขันโอลิมปิกสองสมัยติดต่อกัน

ผลงาน
  • เหรียญทองคิงส์คัพ 2001 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
  • เหรียญทองแดงเวิลด์คัพ ณ ประเทศคาซัคสถาน
  • เหรียญทองคิงส์คัพ 2003 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
  • เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 22 ณ นครโฮจิมินท์  ประเทศเวียดนาม
  • เหรียญทองแดงเวิลด์คัพ ครั้งที่ 12 ปี 2003 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
  • เหรียญเงินไชนาโอเพน  2004 ณ ประเทศจีน
  • เหรียญทองคิงส์คัพ 2004  ครั้งที่ 26 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
  • เหรียญทองโอลิมปิก 2004 ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
  • เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2006 ณ ประเทศกาตาร์
  • เหรียญทองซีเกมส์ 2007 ณ ประเทศไทย
  • เหรียญเงินโอลิมปิก 2008 ณ ประเทศจีน



ที่มาข้อมูล
-วิกีพีเดีย สารานุกรมเสรี.มนัส  บุญจำนงค์. (สืบค้นเมื่อ 30 ก.ย.2553)
-หนังสือคู่มือชมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 34 ราชบุรีเกมส์ (18-28 ธ.ค.2547)

ที่มาของภาพ
-http://www.sport-idol.com/profiles/Idol/83.html
-http://blog.eduzones.com/jipatar/8564

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น